Siam Enneagram Consulting มุ่งมั่นพัฒนาคน โดยเริ่มจากการกลับมาทบทวน สำรวจตัวเอง จนผู้เรียนเกิดความตระหนักรู้ ในตนเอง (Self-Awareness) อยากที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Behavior Change) และพัฒนาตัวเอง เพื่อยกระดับขีดความสามารถทั้งในเรื่องส่วนตัวและการทำงาน ตลอดจนเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานได้ จนกลายเป็นทีมงานที่มีประสิทธิภาพ (High-Performing Team) เพื่อผลักดันองค์กรให้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
ORGANIZATION SUCCESS THROUGH EMPLOYEE DEVELOPMENT
กระบวนการเรียนรู้ ของ Siam Enneagram Consulting ใช้เครื่องมือ Enneagram เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างพื้นฐานความเข้าใจเรื่อง “คน” อย่างลึกซึ้ง เพื่อรู้แนวทางบริหารตนเอง และปรับเปลี่ยนการแสดงออกต่อผู้ร่วมงานให้เหมาะสมและได้ผลยิ่งขึ้น จากนั้นจึงนำมาประยุกต์ ไปสู่การพัฒนาทักษะการทำงาน ผ่านโปรแกรมการเรียนรู้ทักษะด้านอื่นๆ ที่จำเป็นในการทำงาน เรียกได้ว่า เป็นการพัฒนาแบบ “เก่งงาน เก่งคน” ซึ่งจะนำไปสู่ผลสำเร็จของทีมงานและองค์กรมากยิ่งขึ้น
วิธีการเรียนรู้ ทางบริษัทฯ ใช้ Active training activities เป็นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้เรียนรู้ได้มีส่วนร่วมอย่างเหมาะสมกับเนื้อหาหลักสูตร เช่น การประเมินตนเอง การสนทนากลุ่มย่อย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ เกมจำลองสถานการณ์ การแสดงบทบาทสมมติ ให้และรับฟีดแบ็ค coaching ฝึกแสดงพฤติกรรมใหม่ๆ และบรรยายสรุป เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถออกแบบเครื่องมือเสริมอื่น ๆ เช่น การใช้ assignment โค้ชชิ่ง หรือการทำ 360 degree feedback มาผสมผสานการอบรมเพื่อทำให้โปรแกรมการเรียนรู้มีความเข้มข้นมากขึ้น เกิดการติดตามผล (follow up) และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนอีกด้วย
ปัจจุบัน การพัฒนาคนของ Siam Enneagram Consulting จะมี 2 ชุด (Series) คือ
- หลักสูตรการเรียนรู้ ชุด “ปั้นคนให้เก่งคน”
- หลักสูตรการเรียนรู้ ชุด “พิชิต 7 Leadership competencies”
1. ชุดหลักสูตร ปั้นคนให้เก่งคน
โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรการเรียนรู้ ชุด “ปั้นคนให้เก่งคน” ประกอบด้วยเอ็นเนียแกรมเป็นหลักสูตรพื้นฐานหลัก ก่อนที่จะสัมมนาหลักสูตรอื่นๆ ต่อไป เพื่อหล่อหลอมและปรับความคิด (Mindset) ของผู้เข้าร่วมอบรมให้มีความเข้าใจเรื่องคนอย่างถ่องแท้ ด้วยการประเมินสไตล์เอ็นเนียแกรมของผู้เข้าสัมมนาและความรู้เอ็นเนียแกรมพื้นฐาน จากนั้นองค์กรสามารถเลือกหลักสูตรพัฒนาทักษะการทำงานในด้านต่างๆ เพื่อเสริมทักษะในงาน “เฉพาะด้าน” ตั้งแต่ทักษะการทำงานทั่วไป จนถึง ทักษะการบริหารงาน หรือ แม้แต่การเลือกพัฒนาบุคลากรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงด้วยหลักสูตร “ปั้นคนให้เก่งคน” ทั้งชุด เพราะแต่ละหลักสูตรจะมีการความเกี่ยวเนื่องกันและใช้เอ็นเนียแกรมเป็นหัวใจการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ
หลักสูตรการเรียนรู้ ชุด “ปั้นคนให้เก่งคน” ประกอบด้วย 8 หลักสูตรย่อย ได้แก่
หลักสูตรพื้นฐาน
หลักสูตรทักษะทั่วไป
หลักสูตรสำหรับผู้บริหาร
- การพัฒนาความเป็นผู้นำ (Leveraging Your Leadership with the Enneagram)
- การให้ฟีดแบ็คเพื่อพัฒนาผลงาน (Giving Constructive Feedback with the Enneagram)
- โค้ชชิ่ง คิดนอกกรอบด้วยเอ็นเนียแกรม (Out-of-the-Box Coaching with the Enneagram)
- การสร้างทีมงานสมรรถนะสูง (Creating High-Performing Teams with the Enneagram)
- กำจัด 5 อุปสรรคของทีมเวิร์ค ด้วย เอ็นเนียแกรม (Overcome the 5 Dysfunctions of a Team with the Enneagram)
2. ชุดหลักสูตร พิชิต 7 Leadership competencies
โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรการเรียนรู้ ชุด “พิชิต 7 Leadership Competencies” เป็นชุดหลักสูตรเข้มข้นที่ช่วยให้ผู้นำเข้าใจ มองเห็นจุดแข็ง ยอมรับจุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะพัฒนาขีดความสามารถต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้นำ ประกอบด้วยเอ็นเนียแกรมเป็นหลักสูตรพื้นฐานหลัก เพื่อหล่อหลอมและปรับความคิด (Mindset) ของผู้นำให้มีความเข้าใจเรื่องคนอย่างถ่องแท้ ด้วยการประเมินสไตล์เอ็นเนียแกรมของผู้เข้าสัมมนาและความรู้เอ็นเนียแกรม ก่อนที่จะสัมมนาหลักสูตรอื่นๆ ตามสมรรถนะหลักทั้ง 7 ด้าน ที่ใช้แนวทางการบริหารจากโมเดลต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเป็นสุดยอดผู้นำ ได้แก่
หลักสูตรพัฒนาสมรรถนะหลักของผู้นำ
- ผลักดันงานให้สำเร็จ (Drive for result)
- มุ่งมั่นเอาชนะตนเอง (Strive for self-Mastery)
- รอบรู้ธุรกิจ คิดและลงมือทำอย่างมียุทธศาสตร์ (Know the Business : Think and Act Strategically)
- สื่อสารเป็นเลิศ (Become an Excellent Communication)
- นำทีมสมรรถนะสูง (Lead High-Performing Teams)
- ตัดสินใจให้เหมาะสมที่สุด (Make Optimal Decision)
- นำการเปลี่ยนแปลง (Take chance of change)
ผลักดันงานให้สำเร็จ (Drive for result)
เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณที่จะสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าด้วยการการส่งมอบผลงานคุณภาพสูงและยั่งยืน ลูกค้าของคุณต้องพึ่งพาคุณในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และระบบที่ทรงประสิทธิภาพ และตรงต่อเวลา ความพยายามในการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาศักยภาพของตนเอง จะทำให้คุณมีความได้เปรียบในเชิงผลิตภาพ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บรรลุเป้าหมายทางการเงิน และช่วยนำพาองค์กรของคุณให้เป็นผู้นำในธุรกิจที่อยู่ ดูรายละเอียดหลักสูตร...
มุ่งมั่นเอาชนะตนเอง (Strive for self-Mastery)
การเอาชนะตนเอง หมายถึง ความสามารถที่จะเข้าใจ ยอมรับ และปรับเปลี่ยนความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า ความท้ายทายในแต่ละวันเป็นโอกาสอันดี ที่เอื้อต่อการพัฒนาตัวเอง การเอาชนะตัวเองไม่ใช่เพียงแค่การควบคุมคัวเองได้ แต่คือ การหมั่นทบทวนตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และนำไปสู่กระบวนการเรียนรู้และเติบโตจากประสบการณ์ของตนอย่างต่อเนื่อง จนเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องตัวคุณเองอย่างแท้จริง
รอบรู้ธุรกิจ คิดและลงมือทำอย่างมียุทธศาสตร์
(Know the Business : Think and Act Strategically)
ผู้นำชั้นยอดต้องเข้าใจธุรกิจขององค์กรอย่างถ่องแท้ คิดและลงมือทำอย่างมียุทธศาสตร์ในทุกด้าน เช่น ตอบสนองต่อลูกค้า ออกแบบผลิตภัณฑ์และระบบการส่งมอบ รวมถึงการจัดการทรัพยากรให้กับ กิจกรรมที่สร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต การมองเห็นภาพรวมทั้งระบบขององค์กร จะช่วยให้ผู้นำและองค์กรมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลการดำเนินงานชั้นเลิศ
สื่อสารเป็นเลิศ (Become an Excellent Communication)
ผู้นำจำเป็นต้องสื่อสารกับคนทุกระดับทั้งภายในและภายนอกองค์กร อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การสื่อสารเป็นทั้งความท้าทายและความกดดันในขณะเดียวกัน จึงจำเป็นต้องมีทักษะการเจรจาและการวางตัวที่ดี เช่น เมื่อ ต้องให้ฟีดแบ็กเรื่องผลการปฏิบัติงานที่ลำบากใจ การบริหารความขัดแย้ง การรับมือกับปัญหาการเมืองและอิทธิพลต่างๆ ในองค์กร
นำทีมสมรรถนะสูง (Lead High-Performing Teams)
ทีม คือกลุ่มคนที่มีเป้าหมายร่วมกัน และทำงานโดยพึ่งพาอาศัยกันเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น ทีมเป็นรากฐานขององค์กร ดังนั้น ความสามารถในการสร้างและนำทีมงานที่มีสรรถนะสูง จึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของผู้นำทุกคน ทุกงานทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นทีมผู้บริหารระดับสูง ทีมงานเฉพาะกิจ คณะกรรมการกำกับ ทีมโปรเจ็ค ทีมเมตริก หรือทีมงานตามแผนกต่างๆ ล้วนต้องการผู้นำที่สามารถออกแบบโครงสร้างและระบบงานของทีม ผลักดันให้ลูกทีมที่เก่งและมีไฟได้สร้างผลงานคุณภาพ เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าได้อย่างราบรื่น
ตัดสินใจให้เหมาะสมที่สุด (Make Optimal Decision)
การตัดสินใจเป็นงานที่สำคัญอย่างยิ่งยวดของผู้นำยุคนี้ แต่ละวัน มีประเด็นให้ต้องขบคิดตัดสินใจ ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ อีกทั้งกระแสโลกาภิวัตน์ฯยิ่งทำให้การตัดสินใจทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แต่กลับมีเวลาพิจารณาทางเลือกต่างๆ น้อยลง ดังนั้น ผู้นำจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและฉับไว
นำการเปลี่ยนแปลง (Take chance of change)
ทุกวันนี้ การเปลี่ยนแปลงได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับองค์กร บริษัทต่างๆ ต้องดำเนินธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเผชิญหน้ากับการแข่งขันจากรอบด้านที่สูงขึ้น ความคาดหวังจากลูกค้าที่สูงขึ้น กฎเกณฑ์การกำกับที่เข้มงวดขึ้น ต้องพึ่งเทคโนโลยีมากขึ้น ในขณะที่มีทรัพยากรและเวลาในการทำตลาดที่น้อยลง
ดังนั้น องค์กรธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จ จึงต้องมีความยืดหยุ่น รู้จักใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดประโยชน์ ต้องควบคุมต้นทุนและตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ให้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้จึงทำให้ ผู้บริหารในทุกระดับต้องสามารถนำการเปลี่ยนแปลงองค์กร ให้ไปสู่ที่ทิศทางที่อาจะไม่ได้คาดคิดมาก่อน