นับเป็นเรื่องดี ที่ปัจจุบัน คนเริ่มตื่นตัวในเรื่องการพัฒนาตนเองมากยิ่งขึ้น
มีหนังสือ โค้ช วิทยากร หลักสูตรต่างๆ มากมาย ฯลฯ
ให้เลือกเอาหลากลาย มากมาย
ผมเองทำงานเป็นวิทยากรมากว่า 10 ปี
โดยเน้น หลักสูตร In-house สำหรับองค์กร เป็นหลัก
เพราะปัญหามากมายของการทำงานร่วมกันในองค์กร
อย่างที่หลายคนรู้เห็นจากประสบการณ์ส่วนตัว
จนมา สองสามปีก่อนหน้านี้ อยากนำความรู้ส่วนที่ลงลึกกว่าเรื่องการทำงาน
นั่นคือ การปรับเปลี่ยนด้านในของตัวเอง (inner work, transformation)
จึงเริ่มเปิดตัว ทำสัมมนา สำหรับบุคคลทั่วไปในวันเสาร์ – อาทิตย์
แค่ช่วงสั้นๆ นี้ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก
หลายคน นำความรู้ที่ได้ไปใช้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
จนชีวิตมีความสุข สงบ สังเกตได้จากหน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส กว่าเดิมมาก
สิ่งนี้เป็น รางวัลต่อใจ ที่มีค่ามากกว่าอะไร
ขอถือโอกาสวันหยุดปีใหม่นี้ เสนอแนวทางสำหรับผู้ที่ สนใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เริ่มจากด้านใน ที่เป็นความคิด จิตใจ ความเชื่อ ทัศนคติ
อย่างที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Inner work หรือ self-transformation
สรุปได้จากประสบการณ์ตรงว่า
การพัฒนาตนเอง จะต้องเริ่มจากด้านในก่อน
และการจะเข้าใจด้านในของเรา ซึ่งมีความเฉพาะตัว แตกต่างจากคนอื่น
จำเป็นต้องใช้ความรู้ที่อธิบาย ตัวเราได้จริง
ความรู้ที่ว่านี้คือ Enneagram และ MBTI ซึ่งเป็นจิตวิทยาบุคลิกภาพ
หรือความรู้ที่อธิบายความเป็นตัวตนของเรา 2 อย่าง
ที่ได้รับการยอมรับและแพร่หลายไปทั่วโลก ณ เวลานี้
เอ็นเนียแกรม แบ่งคนเป็น 9 แบบ แต่ละแบบเปรียบได้เหมือนกันเกราะป้องกันตัวของเรา ที่เราสร้างขึ้นมาตั้งแต่เด็ก เพื่อใช้รับมือกับความรู้สึกเชิงลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความเสียใจ ความเจ็บปวด ความเหงา ความรู้สึกถูกทอดทิ้ง ฯลฯ จนกลายเป็นตัวตนที่ยึดติดมาตลอด
การเข้าใจ เบอร์เอ็นเนียแกรมของเรา ก็เพื่อที่จะถอดเกราะที่เป็นกำแพงระหว่างเรากับผู้อื่น ที่สร้างปัญหาทั้งเล็กและใหญ่และเพื่อจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ตรงหน้า
ส่วน MBTI แบ่งคนออกออกตามคู่ความถนัดของเรา 4 คู่ ที่เป็นมาแต่เกิด
ทั้งหมดจึงมี 16 ไทป์ ตัวตนหรือไทป์ตาม MBTI ของเรา จึงเป็นตัวตนตามธรรมชาติที่แท้จริงของเรา
สาระสำคัญของ MBTI จริงๆ เป็นเรื่องการใช้ศักยภาพของสมองของเรา ที่เรียกว่า Cognitive Functions 4 ด้านที่สำคัญ ที่เป็นแก่นของไทป์ MBTI ของเรา (Dominant, Auxiliary, Tertiary, Inferior)
การพัฒนาตนเองด้วย เรื่องนี้ คือการพัฒนาศักยภาพของเราที่มีมาแต่เกิดนั้นเอง
โดยสรุป ความรู้เกี่ยวกับตัวตนทั้ง 2 เรื่องนี้ มีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองอย่างลึกซึ้ง
โดยเรา เรียนรู้ เอ็นเนียแกรม เพื่อปล่อยวาง ตัวตนที่เป็นเกราะป้องกัน ที่ทำให้เราไม่สามารถเติบโดออกนอกเกราะได้
เรียนรู้ MBTI เพื่อ ดึงและพัฒนา ศักยภาพตามตามตนแท้จริงของเรา เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่าง มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ การศีกษา 2 เรื่องนี้ ยังให้ประโยชน์มหาศาลในอีกด้าน
คือ ความเข้าอกเข้าใจคนอื่นๆ ที่เป็นคนต่างไทป์จากคุณ
ทำให้ สามารถปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ ได้ ทั้งในชีวิตครอบครัว และสังคมการทำงาน
เชิญชวน พัฒนาตนเองกัน ด้วย Enneagram & MBTI
เห็นผลภายใน 2 -3 ปี ตาม Road Map ที่เราจะนำเสนอในบล๊อกถัดไปครับ
3-Year Roadmap for Inner Work with Enneagram and MBTI
3 thoughts on “Road Map for Inner Work”