เดือนกันยายน ปี 2559 ผมได้เดินทางไป Europe Enneagram Conference ที่ฟินแลนด์ เพื่ออัพเดทความรู้เอ็นเนียแกรม
ในครั้งนั้น ได้ฟังการนำเสนอเรื่อง Voice & Enneagram จากคุณ ซินเธีย ไธย ซึ่งเป็นโค้ชด้านเสียง และศึกษาเอ็นเนียแกรมมานาน จนใช้ 2 เรื่องนี้ควบคู่กัน
ได้ฟังแล้วพบว่า มีความน่าสนใจมาก บทความนี้ สรุปแนวคิดเรื่องนี้ ซึ่งแปลและเรียบเรียงจากที่เธอเขียนลง IEA Nine Points ซึ่งเป็นนิตยสารของ IEA (International Enneagram Association)
Voice and Enneagram
เสียงของเราไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการสื่อสารเท่านั้น
ลมหายใจที่เราสูดเข้าไปในร่างกาย นำพาคามคิด อารมณ์ฺความรู้สึก ที่มีความเฉพาะตัวเข้ามาด้วย
และเมื่อเราหายใจออก เสียงนั้นก็สื่อความเป็นตัวเรา ให้โลกได้รับรู้
ไม่มีวิธีใดที่จะทำความเข้าใจคนๆ หนึ่ง ได้ดีกว่า ดูการใช้เสียงของเขา เช่น
กระแสเสียงนั้นโฟล์อย่างอิสระ หรือถูกกักก้้น
- เสียงนั้นถูกกักกั้นที่ไหน
- เสียงนั้นตรึงเครียด หรือผ่อนคลาย
- เสียงนั้นหนักแน่น หรือเบา หรือลอยๆ
เสียงนั้นเปล่งจากลมกำลังพอเหมาะ หรือน้อยเกินไป - เสียงนั้นเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก หรือขาดไป
คุณภาพและสำเนียงของเสียงของเราสะท้อนสภาวะทางกาย ใจและอารมณ์ โดยแปลงเป็นคลื่นความถี่และการสั่น อันสะท้อนให้เห็นสิ่งที่เราคิดและรู้สึก นอกเหนือไปจากคำพูด
ซึ่งไม่เคยโกหก ไม่ว่าเราจะพยายามปกปิดน้ำเสียงของเราแค่ไหน
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเรานั้นสะท้อนถึงแรงขับของบุคลิกภาพเอ็นเนียแกรม 9 แบบ ที่กำหนดวฺิธีคิด ความรู้สึกและอารมณ์ของเรา แต่ละไทป์มีรูปแบบเฉพาะของเสียง ซึ่งสะท้อนจุดแข็ง และเรื่องยุ่งยากที่คนแต่ละไทป์มีอยู่ การฟังเสียงของคุณช่วยให้คุณได้รู้ว่าคุณกำลังเจออะไรอยู่ อะไรฉุดรั้งคุณไว้ คุณติดอยู่กับปัญหาอะไร และมีจุดบอดอะไรที่คุณมองข้ามไปบ้าง
เสียงมีต้นตอจากอวัยวะในภาพ ก่อกำเนิดจากการสั่นของเส้นเสียง ได้พลังจากลมหายใจ เพิ่มความดังด้วยช่องว่างต่างๆ ร่างกาย และออกมาเป็นคำที่เข้าใจกันโดยใช้ฐานเสียง
การเปลี่ยนของเสียงสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนจิตใจ ดังคำกล่าวที่ว่า กายจิต สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียว
เมื่อคุณปลดปล่อยเสียงให้เป็นอิสระ จิตใจของคุณเป็นอิสระไปด้วย เมื่อคุณค้นพบเสียงที่เกิดขึ้นจากแก่นตัวตนของคุณ คุณจะปลดปล่อยความรู้สึก และอารมณ์ที่ถูกกักกั้นไว้ เมื่อคุณเปล่งเสียงอย่างเต็มที่ คุณจะสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงในวิธีการแสดงออกและออกเสียงพูดของคุณ
ตัวอย่าง เสียงของคนเบอร์หนึ่ง
แรงขับของคนเบอร์หนึ่งคือ ความโกรธ แต่เป็นจุดบอดที่เขาไม่รู้ตัว คนเบอร์หนึ่งไม่รู้ว่า เขาโกรธมากกว่าคนอื่น เรื่องหลักที่เขาโฟกัสคือ ความผิดพลาด
ฉายาคนสมบูรณ์แบบมาจากที่เขาพยายามกำจัด ความผิดพลาดต่างๆ ให้หมดไป
ผลจากความโกรธ และนิสัยที่ต้องแก้ไขข้อผิดพลาด คนเบอร์นี้จึงดูขึงขัง ดุดัน มีแต่เรื่องงาน รูปแบบทั่วไปของเสียงเป็นแบบ ใส่แรงพุ่งออกมากเกินไป ไม่ว่าจะมีระดับเสียงสูงต่ำ หรือดังค่อยแค่ไหน
สำหรับคนเบอร์หนึ่งที่ไม่เคยฝึกใช้เสียงอย่างเหมาะสม มักใช้เสียงสูงกว่าคนไทป์อื่น ผลก็คือ มีน้ำเสียงที่ฟังดูรุนแรงเกินไป ขอให้นึกถึงฮิลลารี่ คลินตันเป็นตัวอย่าง
ถ้าคนเบอร์หนึ่งฝึกใช้เสียงหรือลมหายใจให้ดี ก็จะปรับระดับเสียงให้ต่ำลงได้
แต่คนฟังก็ยังรู้สึกถึงพลังเสียง ที่แรงมากไป เหมือนจะสื่อว่า “ยังไม่ถูกต้อง”
สิ่งที่คุณต้องสังเกตคือ ฟังให้รู้ถึงพลังเสียงที่ใช้มากเกินไป และฝึกที่จะใช้พลังให้น้อยลง นั่นคือ ใช้ลมหายใจที่เบาลง การใช้พลังเสียงน้อยลงจะฝึกให้เขาสามารถปล่อยวางสิ่งต่างๆ เช่น การยึดติดกับวิธีการของตน การติดคำพุดที่ว่า “ควร” “น่าจะ” “ต้อง” วิธีคิดแบบ “ที่ถูกต้อง” รวมถึง การเข้มงวดต่อตัวเองเกินไป
จนสามารถ เข้าถึง ความสงบเย็น (Serenity) ด้านสูงของคนเบอร์หนึ่ง ได้ในที่สุด