เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะ AI, iot, internet 5 G ฯลฯ ที่ถาโถมเข้ามา จน Disrupt ธุรกิจต่างๆ ที่เคยมีมาจนพังไปหมด
กล่าวกันว่า คนทำงานต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้อยู่รอดจาก Disruption
เช่น Reskill การสร้างทักษะใหม่ๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อสิ่งใหม่ๆ ที่มาจะให้ได้ดีขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ทักษะด้านดิจิทัล และการทำงานกับข้อมูลมหาศาล หรือ Big Data
หรือ Upskill นำทักษะที่มีอยู่ ปรับใช้เพิ่มขึ้น เช่่นปรับให้เข้ากับดิจิทัล รวมทั้งการปรับทักษะเดิมนั้นให้ทันองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
แต่สำหรับผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ คนทำงานอิสระ มืออาชีพในแวดวงต่างๆ หรือจริงๆ แล้ว ก็ทุกคนที่ยังต้องทำงานนั่นแหละ
Reskiill และ Upskill ดังกล่าวอาจจยังไม่พอ
สิ่งที่อาจมีความสำคัญกว่า และจำเป็นต้องทำก่อนสิ่งอื่นใด รวมทั้ง 2 เรื่องนี้ คือ
การประดิษฐ์ตัวตนขึ้นใหม่ (Reinvent Yourself)
ที่จริง การ Reinvent ตัวเอง เพื่อให้รับมือกับงานใหม่ ตำแหน่งใหม่ ธุรกิจใหม่ ฯลฯ
เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำมานานแล้ว เพื่อให้อยู่รอดได้ในบทบาทใหม่ที่เปลี่ยนไป
ตัวอย่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ บางคนตอนเป็นพนักงาน ทำงานได้ดีมาก แต่เมื่อได้รับการโปรโมทเป็นหัวหน้า กลับทำหน้าที่น้ันได้แย่มาก
จนเป็นที่พูดแบบแทงใจว่า “เราเสียพนักงานที่ดีไปคนหนึ่ง แต่ได้หัวหน้าที่แย่มากแทน”
การ Re-invent ตัวเอง จีงมีความสำคัญมาแต่ไหนแต่ไร แต่ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในยุค Disruption นี้
คำถามสำคัญตามมาคือ เราจะ Reinvent ตัวเองอย่างไร
เมื่อการ Reinvent แตกต่างจากการฝึกทักษะ จึงต้องมาจาก ตัวตนภายใน ของเรา
ตัวตนภายใน ประกอบด้วย ตัวตน 2 ชนิด
1 Defensive Self หรือ ตัวตนที่เป็นกลยุทธ์ป้องกันตัว ซึ่งเป็นไปตาม เอ็นเนียแกรมไทป์
2 True Self หรือตัวตนตามความถนัดตามธรรมชาติของเรา ซึ่งเป็นไปตาม MBTI Type
1 เอ็นเนียแกรม (Defensive Self) เกิดจากการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดทางจิตใจของเราตั้งแต่วัยเด็ก (copting stategy)
จนกลายมาเป็นตัวตน 9 แบบ เรียกแทนด้วยหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 9
เราสามารถมอง ตัวตนตามเอ็นเนียแกรมนี้ได้ในหลายมิติ
1.1 มิติที่เป็นพฤติกรรมภายนอก เช่น ชื่อเรียก ลักษณะนิสัย จุดแข็ง จุดอ่อน สไตล์การสื่อสาร สไตล์ผู้นำ
1.2 มิติที่อยู่ลึกลงไปที่เป็นที่มาของพฤติกรรมภายนอก เช่น แรงจูงใจ กรอบความคิด (่mindset) กลไกป้องกันตัว (defense mechanism)
การ Reinvent ตัวตนแบบ เอ็นเนียแกรม คือ การปรับกรอบความคิด ความเชื่อ ให้ยืดหยุ่น และรอบด้านมากขึ้น
เพื่อส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพฤติกรรม การแสดงออก
เพื่อให้สามารถรับมือกับ บริบทภายนอกที่เปลียนแปลงไป อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
2 MBTI (True Self) คือตัวตนที่ก่อเกิดจาก ความถนัดตามธรรมชาติใน 4 ด้าน คือ
2.1 แหล่งพลังและการใส่ใจ (Introvert/ Extrovert)
2.2 การรับรู้ข้อมูล (Sensing / Intuition)
2.3 การตัดสินใจ (Thnking / Feeling)
2.4 ไลฟสไตล์ (Judging / Perceiing)
เราสามารถฝึกฝนใช้ความถน้ดทุกด้านของเราได้ แต่เราจะใช้ความถนัดที่่แท้จริงของเรา เช่น E หรือ I, S หรือ N, ฯลฯ ต้านใดด้านหนึ่งได้ถนัด เป็นธรรมชาติ และใช้พลังน้อย กว่าอีกด้านหนึ่ง เมื่อรวมความถนัดทั้ง 4 ด้านของเรา จึงเป็นบุคลิภาพตาม MBTI 16 แบบ
ในอีกมิติหนึ่งที่เป็นโครงสร้างสำคัญของแต่ละ MBTI คือ Cognitive Functions (กระบวนการทางความคิด) ที่แต่ละไทป์มีอยู่ 4 ตัวหลัก ซึ่งมีลำดับการพัฒนาแตกต่างกัน
คนแต่ละไทป์จะมี Cogntive Functions 4 ตัวเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งมีหน้าที่ และมีวิธีพัฒนาแตกต่างกัน
คนส่วนมาก หรือแทบทั้งหมด ไม่รู้วิธีหรือแนวทางในการพัฒนา Cognitive Functions ของตัวเอง
Reinvent ตัวตน จาก True type คือ การพัฒนาศักยภาพของตัวตนจาก Cognitive Functions ตามไทป์ มาใช้ในชีวิต ให้เหมาะสม
ซึ่งคนที่มีไทป์ต่างกัน จะมีแนวทางไม่เหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ หนังสือพัฒนาตนเองโดยทั่วไป ใช้ไม่ค่อยได้ผลกับทุกคน
การ Reinvent ตัวตนแบบ MBTI คือ การพัฒนา Cognitive Functions ตามไทป์ มาใช้
ซึ่งจะส่งผลให้เรา พัฒนามุมมอง และทักษะความสามารถ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิต ได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น
โดยสรุป
Reinvent Yourself from the Inside-Out
คือการประดิษฐ์ตัวตนใหม่ จากตัวตนของคุณ ใน 2 ระบบ ดังนี้คือ
Reinvent Your Defensive Self (Enneagram) โดย ปรับเปลี่ยน Mindset, ความเชื่อ ค่านิยม พฤติกรรม ฯลฯ เพื่อให้ยืดหยุ่น หรือปล่อยวางการยึดติด หรือโต้ตอบโดยอัตโนมัติให้น้อยลง
Reinvent Your True Self (MBTI) โดยพัฒนา Cognitive Functions เพื่อให้สามารถนำศักยภาพที่มีในตัวมาใช้รับมือกับอุปสรรค ความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อ Reinvent ตัวเองใน 2 ระบบตัวตนนี้แล้ว
คุณย่อมสามารถรับมือกับ Disruption หรือ ความท้าทายใดๆ ในชีวิต ได้อย่างมั่่นใจและบรรลุผลมากขึ้น
อ่าน บทความที่เกี่่ยวข้อง 3-Year Roadmap for Inner Work with Enneagram and MBTI